Project Aquaponics System ตอนที่ 1
สวัสดีเพื่อนทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ผมนะคับ เนื่องจากสงการณ์ที่ผ่านมาผมได้ไปเที่ยว จ.ร้อยเอ็ด มันทำให้ผมได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งผมไม่ได้มา จ.ร้อยเอ็ดเป็นครั้งแรก แต่ที่ผ่านมาผมไม่เคยมองไปที่ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่ร้อยเอ็ดเลย ผมอยู่กับตัวเองว่าฉันมาเที่ยว ฉันสนุก แค่นั้น แต่วันนี้หลังจากที่ผมได้ ผ่านการศึกษาที่เรียกว่า Landmark Forum มันทำให้ผมไปที่ผู้คนมากขึ้นไม่อยู่กับตัวเอง จึงทำให้การไปเที่ยว จ.ร้อยเอ็ด ครั้งนี้ มีคุณค่าที่พิเศษและไม่ธรรมดาจริงๆ ผมก็ไปเที่ยวปกตินั่นแหละ แต่สิ่งที่มันปรากฎกับผม มันต่างจากครั้งก่อนๆ ที่ผมเคยสัมผัสมาก การไปเที่ยวร้อยเอ็ดครั้งนี้มันทำให้ผมได้เห็นการทำการเกษตรผสมผสาน การใช้ชิวิตของคนร้อยเอ็ด ผมเห้นเค้ากำลังทำโครงการหนึ่งที่เรียกว่า 1 ไร่ 1 แสน โครงการนี้ผมก็ไม่รู้เขาทำกันมาตั่งแต่เมื่อไร บางคนเพิ่งเริ่ม บางคนทำมาเป็นปีแล้ว ผมเริ่มสงสัยจากจุดเริ่มต้นตรงนี้
เดิมทีจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดที่มีการปลูกข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดในประเทศ แล้วทำไมอยู่ดีดี ถึงคิดจะทำสวน ผมจึงได้สอบถามจากชาวบ้าน ว่าสาเหตุอะไรเค้าถึงเปลี่ยนจากการทำนามาเป็นการทำไร ซึ่งมันไม่เหมาะกับพื้นที่นี้เลย ผมเป็นคนนครปฐมบ้านผมติดแม่น้ำท่าจีน มีน้ำเยอะ ดินดี สะดวกกับการทำไร่ทำสวน แต่ที่ร้อยเอ็ดมันไม่ใช่เลย คำตอบที่ผมได้จากชาวบ้านคือ ความต้องการในการยกระดับความเป็นอยู่ของชาวนา เพิ่มผลผลิตรายได้ และเขาเห็นความเป็นไปได้ในโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาทนี้ ซึ่ง รัฐบาลสนับสนุน หลังจากที่ผมฟังจบผมได้ยินถึงพันธะสัญญาในการที่จะมีชีวิตที่สุขสบายมีความสุข
ผมเริ่มมองย้อนกลับมาที่ตัวผม ในเมื่อชาวบ้านเขามีความต้องการแบบนั้น แล้วอะไรเป็นไปได้บ้างที่จะทำให้ชาวบ้านเหล่านั้น ไปถึงสิ่งที่เขาต้องได้อย่างรวดเร็ว แล้วกับบทสนทนาที่ผมได้ยินจากชาวบ้าน ผมจะยืนเป็นต้นเหตุกับเรื่องนี้ยังไงได้บ้าง ผมเริ่มมองหาช่องทาง ความเป็นไปได้
ผมกลับมา กทม ผมเริ่มหาข้อมูล การทำการเกษตร ที่ได้ผลผลิดมาก ต้นทุนต่ำ ใช้เวลาน้อย ไม่ต้องเหนื่อยกับการดูแลที่ยุ่งยาก ให้เขาสามารถทำได้ โดยไม่ต้องมีความรู้มากนัก ผมเรียนมาน้อยนะคับ ไม่ได้เรียนสูง ไม่ได้จบ ป.ตรี ผมไม่ได้มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย แล้ว ผมจะทำยังไง ครูคนแรกที่ผมนึกถึงเลย Google ถามอะไรตอบได้หมด ผมหาข้อมูลทุกอย่างจาก Google ผม ศึกษาจากทาง youtube จนผมเจอ สิ่งที่เรียกว่า อควาโปนิกส์ ซิสเท่ม ( Aquaponics System ) ตามปกติแล้วในไทยเราจะคุ้นชินกับคำว่า ไฮรโดรโปรนิกส์ที่มีเฉพาะน้ำและพืช แต่อควาโปนิกส์ นอกจากมีน้ำและพืชแล้ว ที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่าง คือ การเลี้ยงปลาด้วยคับ หลังจากได้ที่ศึกษาวิธีและหลัการในการทำ ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ กับชาวบ้าน ผมเลยคิดที่จะทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อส่งต่อความรู้ ให้กับชาวบ้านได้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการขยายผลผลิต และ รายได้ให้กับชาวนา
Aquaponics System คือ สมดุลธรรมชาติระหว่างพืชและปลา หมายถึง การปลูกพืชโดยควบคู่กับการเลี้ยงปลา โดยการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างพืชกับตัวปลาเอง พืชจะใช้น้ำเสียจากปลามาเป็นสารอาหาร โดยน้ำเสียจะถูกดูดวนผ่านหินกรองลงมาที่รากของพืช และน้ำก็จะกลับมาสะอาดเหมือนเป็นการถ่ายน้ำใหม่ ปลาก็ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำที่สะอาดด้วยครับ ระบบนี้จะทำเป็นน้ำวนกลับไปกลับมา แทบจะไม่ได้ทิ้งน้ำเลย ในไทยเริ่มมีบ้างแล้วครับ แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายนัก การเลี้ยงปลาจะเป็นตัวกำหนดปริมาณของพืชครับ เช่น ปลานิล 50-60 ตัว ต้องให้อาหาร 60-100 กรัม และเหมาะกับพื้นที่เพาะปลูกพืชประมาณ 3-4 ตารางเมตร โดยทุกส่วนต้องสัมพันธ์กันทั้งหมด เหมาะกับพืชที่กินใบเป็นหลัก
อควาโปนิกส์ จึงเป็นเหมือนการเลียนแบบธรรมชาติ โดยเอาของเสียจากระบบหนึ่ง ไปเป็นของดีของอีกระบบหนึ่ง ระบบน้ำจะหมุนวนตามที่เราตั้งไว้ ทำให้พืชได้รับสารอาหารที่เต็มที่ ตัวปลาเองก็ได้รับการบำบัดน้ำเสียจากพืชเช่นกัน
วันนี้ผมขอพอแค่นี้ก่อน แล้วผมจะคอยอัพเดทเรื่อยๆนะครับ
เดิมทีจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดที่มีการปลูกข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดในประเทศ แล้วทำไมอยู่ดีดี ถึงคิดจะทำสวน ผมจึงได้สอบถามจากชาวบ้าน ว่าสาเหตุอะไรเค้าถึงเปลี่ยนจากการทำนามาเป็นการทำไร ซึ่งมันไม่เหมาะกับพื้นที่นี้เลย ผมเป็นคนนครปฐมบ้านผมติดแม่น้ำท่าจีน มีน้ำเยอะ ดินดี สะดวกกับการทำไร่ทำสวน แต่ที่ร้อยเอ็ดมันไม่ใช่เลย คำตอบที่ผมได้จากชาวบ้านคือ ความต้องการในการยกระดับความเป็นอยู่ของชาวนา เพิ่มผลผลิตรายได้ และเขาเห็นความเป็นไปได้ในโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาทนี้ ซึ่ง รัฐบาลสนับสนุน หลังจากที่ผมฟังจบผมได้ยินถึงพันธะสัญญาในการที่จะมีชีวิตที่สุขสบายมีความสุข
ผมเริ่มมองย้อนกลับมาที่ตัวผม ในเมื่อชาวบ้านเขามีความต้องการแบบนั้น แล้วอะไรเป็นไปได้บ้างที่จะทำให้ชาวบ้านเหล่านั้น ไปถึงสิ่งที่เขาต้องได้อย่างรวดเร็ว แล้วกับบทสนทนาที่ผมได้ยินจากชาวบ้าน ผมจะยืนเป็นต้นเหตุกับเรื่องนี้ยังไงได้บ้าง ผมเริ่มมองหาช่องทาง ความเป็นไปได้
ผมกลับมา กทม ผมเริ่มหาข้อมูล การทำการเกษตร ที่ได้ผลผลิดมาก ต้นทุนต่ำ ใช้เวลาน้อย ไม่ต้องเหนื่อยกับการดูแลที่ยุ่งยาก ให้เขาสามารถทำได้ โดยไม่ต้องมีความรู้มากนัก ผมเรียนมาน้อยนะคับ ไม่ได้เรียนสูง ไม่ได้จบ ป.ตรี ผมไม่ได้มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย แล้ว ผมจะทำยังไง ครูคนแรกที่ผมนึกถึงเลย Google ถามอะไรตอบได้หมด ผมหาข้อมูลทุกอย่างจาก Google ผม ศึกษาจากทาง youtube จนผมเจอ สิ่งที่เรียกว่า อควาโปนิกส์ ซิสเท่ม ( Aquaponics System ) ตามปกติแล้วในไทยเราจะคุ้นชินกับคำว่า ไฮรโดรโปรนิกส์ที่มีเฉพาะน้ำและพืช แต่อควาโปนิกส์ นอกจากมีน้ำและพืชแล้ว ที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่าง คือ การเลี้ยงปลาด้วยคับ หลังจากได้ที่ศึกษาวิธีและหลัการในการทำ ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ กับชาวบ้าน ผมเลยคิดที่จะทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อส่งต่อความรู้ ให้กับชาวบ้านได้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการขยายผลผลิต และ รายได้ให้กับชาวนา
Aquaponics System คือ สมดุลธรรมชาติระหว่างพืชและปลา หมายถึง การปลูกพืชโดยควบคู่กับการเลี้ยงปลา โดยการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างพืชกับตัวปลาเอง พืชจะใช้น้ำเสียจากปลามาเป็นสารอาหาร โดยน้ำเสียจะถูกดูดวนผ่านหินกรองลงมาที่รากของพืช และน้ำก็จะกลับมาสะอาดเหมือนเป็นการถ่ายน้ำใหม่ ปลาก็ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำที่สะอาดด้วยครับ ระบบนี้จะทำเป็นน้ำวนกลับไปกลับมา แทบจะไม่ได้ทิ้งน้ำเลย ในไทยเริ่มมีบ้างแล้วครับ แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายนัก การเลี้ยงปลาจะเป็นตัวกำหนดปริมาณของพืชครับ เช่น ปลานิล 50-60 ตัว ต้องให้อาหาร 60-100 กรัม และเหมาะกับพื้นที่เพาะปลูกพืชประมาณ 3-4 ตารางเมตร โดยทุกส่วนต้องสัมพันธ์กันทั้งหมด เหมาะกับพืชที่กินใบเป็นหลัก
อควาโปนิกส์ จึงเป็นเหมือนการเลียนแบบธรรมชาติ โดยเอาของเสียจากระบบหนึ่ง ไปเป็นของดีของอีกระบบหนึ่ง ระบบน้ำจะหมุนวนตามที่เราตั้งไว้ ทำให้พืชได้รับสารอาหารที่เต็มที่ ตัวปลาเองก็ได้รับการบำบัดน้ำเสียจากพืชเช่นกัน
วันนี้ผมขอพอแค่นี้ก่อน แล้วผมจะคอยอัพเดทเรื่อยๆนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น